วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

vdo เกี่ยวข้อง

VDO เกี่ยวข้อง




แนะนำ

แนะนำ

ชื่อสมุนไพร :  หญ้าฮี๋ยุ่ม

ชื่ออื่น : หญ้าหมอยแม่หม้าย ขนหมอยแม่ม่าย (สตูล) หญ้าเหล็กไผ่ (สุราษฎร์ธานี) หญ้าอีเหนียว (ชัยนาท) เหนียวหมา (ระนอง)

สรรพคุณหญ้าฮี๋ยุ่ม
      หญ้าฮี๋ยุ่ม ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้กันมานาน สำหรับสตรี ใช้ได้ผลดียิ่ง และมีการใช้สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

      สรรพคุณหญ้าฮี๋ยุ่ม ช่วยในการกระชับช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็นช่องคลอดของหญิงหลังคลอด หรือในหญิงที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนยานไม่กระชับก็สามารถใช้หญ้าดังกล่าวช่วยคืนความกระชับให้ช่องคลอด กลับมามีความกระชับเต่งตึง ลดการหย่อนยานของมดลูกได้ ทำให้กลับมาเหมือนวัยแรกสาวอีกครั้ง และยังช่วยในการสมานแผล เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไวไม่ติดเชื้อ
      สำหรับในสุภาพบุรุษก็สามารถใช้หญ้าฮี๋ยุ่มนี้ได้เช่นกัน ทั้งในเรื่องการช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ใช้ในการรักษาบาดแผล โดยสามารถทำในลักษณะอบไอน้ำ เพื่อบรรเทาอาการริดสีดวงทวารด้วย

      หญ้าฮี๋ยุ่ม (หญ้ารีแพร์) เป็นหญ้าตระกูลไผ่ พบการใช้มากในภาคอีสาน หญ้าชนิดนี้มีสารซิลลิกา (Sillica) ที่มีสรรพคุณช่วยในการฟื้นฟู สร้างความยืดหยุ่นของเอ็น หรือเนื้อเยื่อให้มีความแข็งแรงกระชับ และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ และยังช่วยกระชับผิว ให้เต่งตึงอีกด้วย


       1. หญ้าฮี๋ยุ่ม ช่วยกระชับช่องคลอด ในหญิงหลังคลอด หรือหญิงที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน ไม่กระชับ
       2. หญ้าฮี๋ยุ่มช่วยคืนความกระชับให้ช่องคลอด ให้กลับมามีความกระชับเต่งตึง
       3. หญ้าฮี๋ยุ่มช่วยลดการหย่อนยานของมดลูกได้
       4. หญ้าฮี๋ยุ่มช่วยบีบมดลูกให้แห้งเข้า ช่วยขับน้ำคาวปลา
       5. หญ้าฮี๋ยุ่มใช้รมบาดแผลทำให้แผลแห้งเร็ว
       6. ช่วยลดอาการอักเสบของบาดแผลคลอดบุตรได้
       7. หญ้าฮี๋ยุ่มช่วยสมานแผล เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไว ไม่ติดเชื้อ
       8. หญ้าฮี๋ยุ่มช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น เต่งตึง
       9. ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนักด้วย

     10. ช่วยให้เนื้อเยื่อมีความแข็งแรง และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่







ว่านหางจระเข้

          ไม้ล้มลุกใบใหญ่หนาที่ทุกคนรู้จักกันดี แม้ถิ่นกำเนิดจะอยู่ไกลถึงฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน และแอฟริกา แต่ในประเทศไทยก็มีการปลูกว่านหางจระเข้อย่างแพร่หลาย ซึ่งในตำรับยาไทยก็ใช้ว่านหางจระเข้บำบัดอาการต่าง ๆ ได้มากมาย จนเป็นที่รู้จักว่า เป็นพืชอัศจรรย์ที่มีสรรพคุณสารพัดประโยชน์

          โดย "วุ้นในใบสด" สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ แต่สรรพคุณเด่น ๆ ที่ทุกคนน่าจะรู้จักก็คือ นำมาพอกแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แก้ปวดแสบปวดร้อน แผลเรื้อรัง รักษาผิวที่ถูกแดดเผา แผลในกระเพาะอาหาร และช่วยถอนพิษได้ เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานแผล แต่มีข้อแนะนำว่า ก่อนใช้ควรทดสอบดูก่อนว่าแพ้หรือไม่ โดยเอาวุ้นทาบริเวณท้องแขนด้านใน ถ้าผิวไม่คันหรือแดงก็ใช้ได้ นอกจากส่วนวุ้นในใบสดแล้ว ส่วน "ยางในใบ" ก็สามารถนำมาทำเป็นยาระบายได้ และส่วน "เหง้า" ก็นำไปต้มน้ำรับประทาน แก้โรคหนองในได้ด้วย




ทองพันชั่ง

          เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าไม่ต่างไปจากชื่อ "ทองพันชั่ง" หลายพื้นที่อาจเรียกว่า "ทองคันชั่ง" หรือ "หญ้ามันไก่" เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ออกดอกสีขาว ส่วนที่ใช้ทำยาคือ ใบและราก ที่หากนำปริมาณ 1 กำมือมาต้มรับประทานเช้าเย็น จะช่วยดับพิษไข้ รักษาโรคผิวหนัง ริดสีดวงทวารหนัก แก้ไอเป็นเลือด ฆ่าพยาธิ นอกจากนั้น ยังสามารถนำใบและรากมาตำละเอียด เพื่อรักษาโรคกลาก เกลื้อน ได้ด้วย

          นอกจากสรรพคุณข้างต้นแล้ว มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมพบว่า "ทองพันชั่ง" มีฤทธิ์ยับยั้งมะเร็งเยื่อบุช่องปาก มะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูกได้ รวมทั้งช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง รักษาโรคนิ่ว ฯลฯ แต่ข้อควรระวังคือ ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง โรคหัวใจ โรคหืด โรคความดันโลหิตต่ำ โรคมะเร็งในเม็ดเลือด ไม่ควรรับประทาน



ขมิ้นชัน

          เรียกกันทั่วไปว่า "ขมิ้น" เป็นไม้ล้มลุกมีสีเหลืองอมส้ม มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอม คนนิยมนำ "เหง้า" ทั้งสดและแห้งมาใช้รักษาอาการที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร รวมทั้งแก้ท้องเสีย ท้องร่วง จุกเสียดแน่นท้อง และสามารถนำขมิ้นชันมาทาภายนอก เพื่อใช้รักษาแผลเรื้อรัง แผลสด โรคผิวหนัง พุพอง รักษาชันนะตุได้ด้วย

          นอกจากนั้น "ขมิ้นชัน" ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ "คูเคอร์มิน" ที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ อีกทั้งยังสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนัง หรือใครที่มีแผลอักเสบ "ขมิ้นชัน" ก็มีสรรพคุณช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะมีฤทธิ์ไปลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง และหากรับประทานขมิ้นชันทุกวัน ตามเวลาจะช่วยให้ความจำดีขึ้น ไม่อ่อนเพลียยามตื่นนอน และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย


วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เว็บไซต์เพิ่มเติม

เว็บไซต์เพิ่มเติม
https://goo.gl/Aip84D = เกร็ดความรู้.net
                        https://goo.gl/Aip84D = สรรพคุณสมุนไพรไทย 200 ชนิ
                https://goo.gl/Aip84D = สมุนไพรไทย เพื่อสุขภาพ
         https://goo.gl/Aip84D = สมุนไพรไมย 22 ชนิด
             https://goo.gl/Aip84D = 10 สมุนไพรไทยไกล้ตัว

อื่นๆ

อื่นๆ




มะนาวโห่
 มะม่วงไม่ง่วง(เลยไม่หาว) มะนาวเจ็บคอ (เลยไม่โห่) ค่ะ
บางถิ่นเรียก มะม่วงหาว มะนาวโห่ แต่อีกชื่อหนึ่งคือ "หนามแดง" ค่ะ

สรรพคุณ ทางยาสมุนไพรของหนามแดงมีไม่น้อย อาทิเช่น ราก ใช้บำรุงธาตุ ขับพยาธิ
รักษาบาดแผล และแก้คัน, ใบ ใช้แก้ท้องร่วง เจ็บคอ แก้ปวดหู, ผลมีรสเปรี้ยว คล้ายมะนาว
ใช้แก้ไอ แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้ท้องเสีย แก้เจ็บคอ และช่วยขับเสมหะ

 สมุนไพร มะระขี้นก

มะระขี้นก เป็น ผัก พื้นบ้านของไทย ที่คนไทยนิยมนำยอดอ่อนและผลอ่อนมาปรุงเป็นอาหารโดยนำมาลวกเป็น ผัก จิ้ม แต่หลายคนก็ไม่ชอบทานนัก เพราะว่าขม มีผิวขรุขระ แต่ว่ามะระขี้นกนี้ เป็นยาชนะเบาหวานชั่นยอดเลยนะ

เพราะมะระขี้นกนี้ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อันเป็นสาเหตุของเบาหวาน และสามารถชะลอการเกิดต้อกระจกซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้

รูปแบบวิธีทานที่ให้ผลลดน้ำตาลในเลือดก็ไม่ซับซ้อน คือสามารถใช้ได้ทั้งน้ำคั้น ชงเป็นชา หรือกินในรูปแบบของแคปซูล ผงแห้งก็ได้

ผักไส้ตัน ( โมกเครือ ) บางคนเอิ้นเครือบักหลอด

“ไส้ตัน” มีลำต้นเป็นเถาไม้เลื้อยพันต้นไม้อื่น ไม่มีมือเกาะ เปลือกต้น เรียบมีสีน้ำตาลแดง-น้ำตาลเข้ม มีตุ่มสีขาวตามลำต้น มีน้ำยางสีขาวข้น ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงกันข้าม ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบใบเป็นมัน หน้าใบหลังใบไม่มีขน ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม แผ่นใบเป็นคลื่นสีเขียวเข้มเป็นมันวาว ดอก ออกดอกที่ยอดหรือปลาย  กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย สีขาว ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ดอกมีกลิ่นหอม ผล เป็นฝักคู่เรียวยาวผิวเรียบ มีสีเขียว พอผลแก่แห้งเป็นสีน้ำตาล และแตกอ้าออกเห็นเมล็ดข้างใน เมล็ด เป็นสีน้ำตาลมีขนสีขาวติดอยู่
ขยายพันธุ์โดยใช้ราก กิ่ง ปักชำ

การใช้ประโยชน์ไส้ตันในด้านอาหาร ใบนำมาใส่ในแกงอ่อม ยอดอ่อน ใบสด ใช้ปรุงอาหาร ใช้จิ้มน้ำพริก หรือกินกับเมี่ยง

การใช้ประโยชน์ไส้ตันในด้านสมุนไพร 
-ยอดไส้ตันใช้แก้ท้องเสีย
 -ต้น ในตำรายาไทยเนื่องจากต้นมีรสเฝื่อน ฝาด จึงนำมาเข้ายารักษาประดง (อาการปวดผิวหนังมีผื่นคัน คล้ายผด คันมากมักมีไข้ร่วม) แก้พิษฝีภายใน
- ในตำรายาพื้นบ้าน ใช้ต้นผสมกับผลมะตูมอ่อน เถาสิงโตทั้งต้น และว่านมหากาฬทั้งต้น ต้มน้ำดื่ม รักษาเบาหวาน
-รากบำรุงกำลังช่วงฟื้นไข้ แก้ไตพิการ (ปัสสาวะขุ่นข้น สีเหลืองหรือแดง มีอาการแน่นท้องกินอาหารไม่ได้) และตับพิการ บำรุงและขับฤดู หรือผสมแก่นลั่นทมต้มน้ำดื่มเป็นยาระบาย
-ใบแก้เมื่อยขบ เข้ายาทารักษาฝีและ ริดสีดวงทวา
สมุนไพรโปร่งกิ่ว
สรรพคุณของโปร่งกิ่ว
ตำรายาไทยจะนำลำต้นโปร่งกิ่วมาผสมกับลำต้นกันแสงและลำต้นพีพ่าย ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก (ลำต้น)[1]
ประโยชน์ของโปร่งกิ่ว
นอกจากใช้เป็นสมุนไพรแล้วยังมีการใช้ประโยชน์ในด้านการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ และเป็นอาหารของสัตว์